ค้นหาจากพื้นที่
ค้นหาจากประเภท
ค้นหาตามฤดูกาล
ค้นหาจากคำสำคัญ
ขอต้อนรับสู่คิวชู

ตอนเหนือ

ดอกไม้และผลไม้

ขอต้อนรับสู่คิวชู

เชิญทำความรู้จักกับเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสาม ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของญี่ปุ่น ดินแดนแห่งบ่อน้ำพุร้อน ธรรมชาติที่งดงาม อาหารแสนอร่อย และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง



ไกลออกไปจากภูมิทัศน์เมืองของโตเกียว ไกลจากวัดและศาลเจ้าที่หนาแน่นของเกียวโต คือที่ตั้งของอัญมณีเร้นลับแห่งญี่ปุ่นนามว่าคิวชู ประตูสู่ญี่ปุ่นและเอเชียบานนี้เปรียบได้กับบ้านสไตล์เซนอันอบอุ่น ซึ่งมีทั้งน้ำพุร้อน อาหารสดใหม่ ธรรมชาติเขียวชอุ่ม และสมาชิกครอบครัวแสนน่ารักที่พร้อมต้อนรับคุณ



คิวชูเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมญี่ปุ่นยุคแรกเริ่ม ที่นี่จึงเป็นจุดกำเนิดประวัติศาสตร์และตำนานส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น และด้วยสมญานาม "โรมแห่งญี่ปุ่น" ด้านหนึ่งก็เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมผสมผสานอิทธิพลของญี่ปุ่นดั้งเดิมและต่างประเทศได้อย่างมีเอกลักษณ์



จากมหานครฟุกุโอกะที่เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรม เรื่อยไปจนถึงเนินที่ปกคลุมด้วยดอกซากุระของปราสาทคุมาโมโตะ และจากชายฝั่งเกาะภูเขาไฟซากุระจิมะอันร้อนระอุ ไปจนถึงน้ำพุร้อนฟื้นฟูของ “ดินแดนแห่งไฟ" อย่างเบ็ปปุ คือโอเอซิสเปี่ยมชีวิตชีวาที่รอให้คุณมาค้นพบ


$detail['image_comment']

ชมวิวตลอดทาง

เมืองฟุกุโอกะคือประตูหลักสู่คิวชู ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่งจากเกียวโตและโอซาก้า มีเที่ยวบินมุ่งตรงสู่ฟุกุโอกะจากโตเกียวและเมืองใหญ่อื่น ๆ ในญี่ปุ่นและเอเชีย บนเกาะมีระบบรถไฟและรถบัสที่ครอบคลุม ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่นและเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้อย่างสะดวกสบาย เส้นทางรถไฟชมวิวหลายสายจะพาคุณชมภูมิทัศน์อันงดงาม คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางด้วยรถไฟสายยูฟูอิน-โนะ-โมะริ จากฟุกุโอกะไปยังเมืองน้ำพุร้อนยูฟูอิน และเมื่อนั่งรถไฟสีเหลืองของ JR Kyudai Line ข้ามแม่น้ำชิคุโกะ คุณจะได้ชื่นชมกับทิวทัศน์ของภูเขาและธรรมชาติโดยรอบ หรืออาจเลือกนั่งรถจักรไอน้ำจากคุมาโมโตะไปยังฮิโตโยชิเพื่อเดินทางย้อนอดีตสู่ชนบทเขียวชอุ่ม ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบเส้นทางรถไฟล่วงหน้าเพื่อวางแผนหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
$detail['image_comment']

ธรรมชาติแวดล้อม

คิวชูมีภูมิอากาศแบบกึ่งร้อนชื้น ประกอบด้วยภูเขาสูงลาดชัน และหน้าผาสูงริมทะเล ความงามตามธรรมชาติของที่นี่น่าอัศจรรย์ใจอย่างแท้จริง ตั้งแต่น้ำตกขนาดใหญ่แสนทรงพลัง ผืนป่าอันเงียบสงบ ไปจนถึงภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นที่ทำให้แม้แต่ชาวเมืองผู้กระตือรือร้นที่สุดก็ยังต้องประทับใจ การผจญภัยสุดเร้าใจเริ่มต้นจากภูเขาไฟที่ยังไม่ดับของคิวชู ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสเพียงสั้น ๆ จากนางาซากิ คุณก็จะมาถึงภูเขาไฟอุนเซน โดยกลางภูมิทัศน์ของเมืองคาโงชิมะนั้นยังมีภูเขาไฟซากุระจิมะตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่อีกด้วย ส่วนปล่องภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของคิวชูคือภูเขาไฟอะโสะ แม้จะไม่เปิดให้เข้าชมเนื่องจากการปะทุในระยะหลัง แต่คุณสามารถขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินชมความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟลูกนี้ได้ ไกลออกไปในที่ราบสูงคือช่องเขาทาคาจิโฮะสุดตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเกิดจากลาวาที่ไหลมาจากภูเขาอะโสะ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกมานาอิที่สวยงาม และเมื่อมุ่งหน้าไปทางตะวันออกของเกาะจะพบชายฝั่งนิจินัน ซึ่งคุณสามารถชมทิวทัศน์ชายฝั่งที่ทอดยาว รวมถึงเกาะต้นปาล์มของอาโอชิมะ และสะพานแขวนเทรุฮะซึ่งสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย

เกาะยาคุชิมะทางตอนใต้คือจุดเที่ยวชมที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักธรรมชาติ ซึ่งสวรรค์ป่าเขตร้อนแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องเจ้าหญิงโมโนโนเกะ (Princess Mononoke) ผลงานของผู้กำกับฮายาโอะ มิยาซากิ นั่นเอง
$detail['image_comment']

สวรรค์บ่อน้ำพุร้อน

ภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่านไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียวที่ถูกสร้างขึ้นโดยการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกของคิวชู นักเดินทางจากทั่วโลกต่างเดินทางมายังคิวชูเพราะบ่อน้ำพุร้อนอันงดงามที่มีพลังบำบัดฟื้นฟู หมู่บ้านเบ็ปปุออนเซ็นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เนื่องจากรีสอร์ทอันมีเอกลักษณ์แห่งนี้เต็มไปด้วยที่พักพร้อมบ่อน้ำพุร้อนทันสมัยและโรงอาบน้ำสาธารณะแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ บ่อน้ำพุร้อนที่โด่งดังที่สุดของเบ็ปปุคือ "จิโกคุ" หรือ "นรก" ซึ่งเป็นบ่อโคลนกำมะถันที่มีความร้อนสูงมากจนทำให้เกิดฟองสีสันสดใส (ลงแช่ไม่ได้!) ยูฟูอินออนเซ็นซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน มีที่พักพร้อมน้ำพุร้อนยอดนิยม รวมถึงร้านค้าบูติกและร้านอาหารมากมาย และอย่าลืมแวะชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบคินรินใกล้ ๆ ซึ่งมีหมอกยามเช้าที่เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในด้านอิบุสึกิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายใต้สุดของคาโกชิมะนั้นขึ้นชื่อเรื่องบ่ออบทรายร้อน ซึ่ง Hot Foot 105 ในจังหวัดนางาซากิเป็นสปาแช่เท้าที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ตำนานกล่าวว่าน้ำจากทามานะซึ่งเป็นหมู่บ้านออนเซ็นอายุ 1,300 ปีของจังหวัดคุมาโมโตะมีความสามารถในการรักษาอย่างน่าอัศจรรย์ สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ว่ากันว่าสมเด็จพระจักรพรรดินีจิงงูผู้ได้รับการเคารพนับถือประดุจสมมติเทพ เคยสรงน้ำที่ทาเคโอะออนเซ็นซึ่งมีอายุ 1,200 ปี ระหว่างเดินทางกลับจากการยกทัพรุกรานเกาหลี
$detail['image_comment']

แรงบันดาลใจจากทั่วโลก

ผู้มาเยือนจะเห็นว่าทั่วทั้งคิวชูมีการผสมผสานวัฒนธรรมทั้งจากจีน เกาหลี และยุโรป ในฐานะศูนย์กลางประวัติศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหนึ่งในเมืองท่าเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดรับธุรกิจค้าขายแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ผลผลิตทางวัฒนธรรมหลายอย่างที่แพร่หลายทั่วญี่ปุ่น เช่น ศิลปะและอาหาร ต่างมีต้นกำเนิดที่คิวชู ศิลปินจากเมืองเครื่องปั้นดินเผาอาริตะและอิมาริผลิตเครื่องเซรามิกที่ได้รับอิทธิพลจากเกาหลีในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมมานานหลายศตวรรษ ซากปรักหักพังที่อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่สาม และมีชุมชนที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคยาโยอิ สมัยที่เกษตรกรชาวจีนเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นจากสังคมเก็บของป่าล่าสัตว์เป็นสังคมเกษตรกรรม ที่เกาะชิคาโนชิมะในฟุกุโอกะ ผู้เข้าชมจะได้เห็นพระราชลัญจกรทองคำที่สมเด็จพระจักรพรรดิกวังอู่ของจีนประทานให้ผู้ปกครองญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น นางาซากิเป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุโรปและสถานที่สำคัญของชาวคริสต์ เนื่องจากเป็นเมืองเดียวที่เปิดรับชาวต่างชาติจนกระทั่งถึงยุคปฏิรูปเมจิ เดจิมะเป็นที่ตั้งสถานีการค้าของชาวดัตช์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ขณะที่บริเวณสวนโกลเวอร์มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ มหาวิหารอุรากามิที่ได้รับการบูรณะและโบสถ์คาทอลิกโออุระเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ความวุ่นวายของนางาซากิ ส่วนนักชิมสามารถหาราเม็งชั้นยอดของญี่ปุ่นทานได้ที่ไชน่าทาวน์ของนางาซากิ
$detail['image_comment']

อาหารระดับโลก

นักเดินทางจากทั่วโลกผู้ชื่นชอบการลองลิ้มชิมรสต่างเลือกคิวชูเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับอาหารทะเลสดใหม่รสเลิศ บะหมี่ชวนน้ำลายสอ และอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นราคาย่อมเยาว์ นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มลองเมนูที่หลากหลายจากภัตตาคารชั้นเลิศและยะไต (ร้านรถเข็น) ชื่อดังจากทั่วทั้งคิวชู ตั้งแต่อาหารร่วมสมัยสุดสร้างสรรค์ไปจนถึงอาหารเรียบง่ายจากสูตรเฉพาะตัวที่สืบทอดมานับศตวรรษ แวะชิมราเม็งเนื้อหมูยอดฮิตจากยะไตชื่อดังของฟุกุโอกะ หรือมุ่งหน้าไปยังนางาซากิแล้วลองชิมปลาปักเป้าชื่อกระฉ่อน ลิ้มรสเนื้อวัวซากะลายหินอ่อนที่มีความนุ่มเทียบได้กับเนื้อโกเบจะละลายในปากของคุณ ถ้าอยากลองทานองุ่น แอปเปิล ลูกแพร์ และผลไม้แสนสวยชนิดต่าง ๆ เมืองอะซะกุระและชุมชนเกษตรกรรมอื่น ๆ ก็มีผลไม้ตามฤดูกาลรสชาติหอมหวานเตรียมไว้ต้อนรับคุณ อาหารทะเลของคิวชูคือสิ่งดึงดูดหลัก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะลิ้มรสปลาแมคเคอเรลในโออิตะ ปลาโบนิโตในมิยาซากิ หรือปลาฮามาจิในคาโงะชิมะ มั่นใจได้ว่านี่คือรสชาติที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น หรืออาจดีที่สุดในโลกด้วยซ้ำ
$detail['image_comment']

ซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี

ว่ากันว่าโฉมหน้าของคิวชูเปลี่ยนไปทุกฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของเกาะอาจกล่าวได้ว่าคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ในปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน ดอกซากุระจะปกคลุมทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคิวชูเองก็ไม่ต่างกัน สวนนิชิในเมืองฟุกุโอกะจะมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยต้นซากุระนานาพันธุ์กว่า 3,000 ต้น มิโกะที่สวนทาชิโระในจังหวัดซากะจะแสดงการเต้นรำพื้นเมืองใต้ร่มเงาดอกซากุระ และสวนโอมูระในจังหวัดนางาซากิที่ถูกสร้างขึ้นเหนือคูเมืองแห้งของซากปราสาทนั้นมีต้นซากุระมากถึง 300 ต้น ต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์ของเฮเคะตั้งอยู่บนภูเขาเทนโบโกเหนือแม่น้ำคานาเมะกาวะ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในสงครามระหว่างสองตระกูล เชื่อกันว่าต้นซากุระมีวิญญาณของคนในตระกูลเฮเคะที่พ่ายแพ้สิงอยู่ จุดชมดอกซากุระที่โด่งดังที่สุดของคิวชูอาจอยู่ที่ปราสาทคุมาโมโตะ ทิวทัศน์จากด้านบนหอคอยหลักนั้นงดงามมาก ไฟประดับต้นซากุระจะสว่างไสวขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน ทำให้ที่นี่เหมาะจะเป็นจุดปิกนิกยามค่ำคืน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ให้คุณลองเดินเล่นเลียบไปตามทางเดินของภูเขาคิโยมิซุซึ่งตั้งอยู่ระหว่างฟุกุโอกะและคุมาโมโตะ เนื่องจากใบเมเปิ้ลในช่วงนี้จะสวยเป็นพิเศษ คฤหาสน์คุเน็นอันในจังหวัดซากะเป็นบ้านพักตากอากาศของนักธุรกิจท้องถิ่นในยุคก่อน เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เพียงเก้าวันในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี สวนดอกไม้คูจูตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาอันงดงาม มีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทุกฤดูกาล โดยมีดอกทิวลิปบานในฤดูใบไม้ผลิ ดอกลาเวนเดอร์บานในฤดูร้อน และดอกคอสมอสบานในฤดูใบไม้ร่วง



ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ อาหาร หรือทิวทัศน์ ทุกฤดูกาลในคิวชูล้วนเต็มเปี่ยมด้วยวัฒนธรรม ความบันเทิง และสิ่งมหัศจรรย์ เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารต่างมีราคาไม่แพง และรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ


$detail['image_comment']

นิค แนริกอน (Nick Narigon)

นิคเป็นนักเขียนบทความจากโตเกียว มีประสบการณ์ในการทำงานให้หนังสือพิมพ์และนิตยสารทั้งในอเมริกาและญี่ปุ่นนานกว่าสิบปี เขาสนุกกับการเปิดโลกกว้างในญี่ปุ่นร่วมกับภรรยาและลูกชายทั้งสองคน
$detail['image_comment']
pagetop